เรื่องต่อไปนี้เป็นเรื่องที่นำมาจากชีวิตจริงโดยตรง และเป็นเครื่องแสดงให้เห็นความสำคัญของภาพพจน์ที่ดี และสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อภาพพจน์ของคุณเปลี่ยนแปลงไป
ตอนที่วิคเตอร์ เซอริไบรคอฟ อายุได้ 16 ปี ครูในโรงเรียนได้บอกเขาว่า เขาคงไม่มีโอกาสเรียนจบ และควรจะเลิกเรียนไปฝึกหัดทำมาหากินข้างนอก พวกเขาบอกว่าเขาไม่ฉลาดพอ วิคเตอร์ปฎิบัติตามที่ครูแนะนำทุกประการ และใช้เวลา 17 ปี ทำงานที่แตกต่างกันโดนเปลี่ยนงานไปเลื่อยๆ ถึง 67 อย่างจวบจนอายุได้ 32 ก็บังเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างหน้าอัศจรรย์ขึ้น
มีผู้ทดลองทำการประเมินระดับสติปัญญาของเขา (IQ แล้วพบว่าเขามีไอคิวสูงถึง 161 เดาได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น? ใช่แล้ว เขาเริ่มแสดงออกแบบบุคคลอัจฉริยะ วันนี้ชายคนนี้คือนักวิทยาศาสตร์ ทำงานเกี่ยวกับเลเซอร์ และประดิษฐ์กรรมวิทยาศาสตร์ เขาได้เขียนหนังสือขึ้นมาหลายเล่ม ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ การค้าจำนวนมาก และกลายเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง เขาได้รับเลือกให้เป็นประธานสมาคม Mensa อยู่ 2 ปี ซึ่งเป็นสมาคมที่รับเฉพาะสมาชิกที่มีระดับไอคิวตั้งแต่ 140 ขึ้นไปเท่านั้น
ตอนที่อายุ 32 ปีเขาถูกปรามาสว่าเป็นคนปัญญาอ่อน พออายุได้ 33 ปีเข้าก็ถูกรับรู้ในฐานะของอัจฉริยะ เขาได้เข้าเรียนต่อและเขาสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่เหลือเชื่อได้ภายในเวลาไม่กี่เดือนได้อย่างไร? ประวัติของ วิคเตอร์ เซริไบรคอฟ ทำให้คุณต้องมานั่งนึกว่า...เรายังมีบุคคลอัจฉริยะอีกมากแค่ไหนหนอ ที่ยังเดินเพ่นพ่านทำตัวเหมือนคนปัญญาอ่อน เพียงเพราะมีคนเคยบอกพวกเขาว่า เป็นคนที่ไม่ค่อยฉลาดนัก
จะเห็นได้ชัดว่าหลังจากได้ทราบผลทดสอบทางไอคิวแล้ว วิคเตอร์ก็หาได้เกิดภูมิปัญญาที่สูงส่งขึ้นมาอย่างกะทันหัน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เขาเกิดความมั่นใจในตัวเองพุ่งพรวดขึ้นมาอย่างมหาศาล ทำให้เขากลายเป็นคนที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ทำประโยชน์ได้มากขึ้น เมื่อเขามองเห็นตนเองแตกต่างไปจากเดิม เขาก็เริ่มมีพฤติกรรมที่แตกต่างออกไป เขาเริ่มคาดหวังมากขึ้น เริ่มแสวงหามากขึ้น
ใช่แล้ว "เมื่อมนุษย์คิดว่าตัวเขาเป็นอย่างไร เขาก็จะเป็นอย่างนั้น"
เคล็ดลับในการเป็นผู้ชนะคือการมองตัวของคุณเองในฐานะผู้ชนะและเชื่อว่าคุณสามารถทำอย่างนั้นได้
ได้มีการทดลองเรื่องทำนองนี้ที่ มหาวิทยาลัยทูเลนใน เมืองนิว ออร์ลีน โดยขอให้ฝ่ายบุคลของมาหาลัยช่วยเลือกคนที่ถูกนิยามว่าเป็นพวก "ไม่ได้เรื่อง" มาจำนวนหนึ่งเพื่อทำการทดลอง หลังจากทำการทดสอบด้านจิตวิทยาและวิชาการแล้วก็ได้ชาย 2 คนทั้งคู่เป็นภารโรง และพบว่าหนึ่งในพวกเขาไม่สามารถสอนให้พิมพ์ดีดได้
จากนั้นได้เริ่มการอบรมด้านจิตวิทยาและความเชื่อจากวันเป็นเดือนและจากเดือนเป็นปี หากมีใครได้ไปที่มหาวิทยาลัยทูเลนในทุกวันนี้ แล้วถามหาภารโรงคนนั้นคุณจะไม่มีวันได้เจอเขาที่นั้น ชายหนุ่มที่ไม่สามารถถูกสอนให้พิมพ์ดีดได้กลายไปเป็นหัวหน้าแผนกคอมพิวเตอร์โปรแกรมเมอร์ในบริษัทประกันชีวิตในนิวออร์ลีนไปแล้ว
วันที่: Sun May 25 23:24:52 ICT 2025
|
|
|