“จงทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ตอนที่มันยังเล็กอยู่ เพราะทุกสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ย่อมเริ่มจากเล็กเสมอ”
“มนุษย์ทุกคนที่บรรลุอะไรสักอย่างในชีวิต ต้องฝันก่อนทั้งนั้นแหละเธอจ๋า พวกเขาต้องจินตนาการซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่ามันจะเป็นยังไง ถ้าไปถึงเป้าหมาย แน่นอนเราจะไม่หยุดอยู่แค่นั่งฝัน”
- มันนี แนะนำให้ คิร่า หาอัลบั้มรูปเปล่ามาเล่มหนึ่งและทำให้เป็นอัลบั้มความปรารถนาของเธอ ให้ไปหาภาพที่สื่อถึงสิ่งที่เธอปรารถนามาติด เราต้องคิดเป็นภาพ ไม่ให้คิดเป็นตัวหนังสือ
- ไม่มีคำว่า “ลอง”, มีแต่คำว่า “ทำ” หรือ “ไม่ทำ” เท่านั้น
• สิ่งแรก ให้ทำอัลบั้มความปรารถนา
• สิ่งที่สอง จงดูรูปภาพพวกนั้นทุกวัน
• สิ่งที่สาม ทำกระปุกความฝัน
“เธอจะหาเงินได้หรือไม่ได้ ไม่ใช่เรื่องสำคัญที่สุด เธอจะมีไอเดีย ดีๆ หรือเปล่าก็ไม่เป็นไร เธอจะเก่งหรือไม่เก่งก็ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายอะไรแต่สิ่งสำคัญคือ เธอต้องเชื่อมั่นในตัวเอง”
มันนี ให้ คิร่า เขียนบันทึกความสำเร็จ ให้เขียนทุกวัน ตอนแรกเธอจะไม่แน่ใจว่าควรจะเขียนอะไรแต่ถึงจะสงสัยก็จงเขียนไปเถอะ
1. จงพยายามหาทางแก้ปัญหาให้คนอื่น
2. จงค้นหาและตั้งใจทำสิ่งที่เรารู้ สิ่งที่เราทำได้และสิ่งที่เรามี
“เธอต้องคิดถึงสิ่งที่เธอทำไม่ได้ให้น้อยลง เธอต้องมองหาสิ่งที่ทำได้”
- เธอควรจะหาให้ได้ว่าเธอชอบทำอะไร แล้วก็เอามาคิดดูว่า จะหาเงินจากตรงนั้นได้ไหม
- เมื่อหางานที่ทำเงินได้แล้ว
• อย่างแรก จงอย่าฝากชีวิตไว้กับงานงานเดียวมันอาจจะจบลงเร็วกว่าที่คิดก็ได้ เพราะฉะนั้น เธอต้องมองหางานเพิ่มทันที
• อย่างที่สอง มันจะต้องมีปัญหาเกิดขึ้นแน่นอน แล้วมันจะเป็นบทพิสูจน์ความสามารถของเราจริง ๆ
“เป็นกฎง่าย ๆที่ว่าหากเธอตั้งใจจะทำอะไร เธอจะต้องทำภายใน 72 ชม.ไม่อย่างนั้นเธอก็คงจะไม่ได้ทำเลย”
“จงออมเงินไว้ 50% ของเงินที่มี ส่วนอีก 50% นำไปจ่ายหนี้อุปโภคบริโภค แต่ไม่ควรก่อ หนี้อุปโภคบริโภคเลย เป็นการดีที่สุด” (ความหมายคือ ให้ใช้หนี้แค่ครึ่งเดียวของเงินที่หามาได้)
- คนส่วนใหญ่คิดว่างานต้องเป็นสิ่งที่ไม่น่าสนุกแต่ต้องหนัก แต่จริงๆ เราจะประสบความสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อได้ทำสิ่งที่ชอบ
- คนเป็นหนี้ต้องทำ 4 ข้อนี้
1. ใครก็ตามที่มีหนี้สินต้องโยน เครดิตการ์ดทิ้งไปให้หมด
2. จ่ายหนี้คืนให้น้อยที่สุด
3. จงออมเงินไว้ 50% ของเงินที่มี ส่วนอีก 50% นำไปจ่ายหนี้อุปโภคบริโภค แต่ไม่ควรก่อหนี้อุปโภคบริโภคเลยจะดีที่สุด
4. มันจำเป็นแน่หรือไม่ ที่จะจ่ายเงินออกไป คิดให้ดีก่อนจ่ายเงินออกไปเสมอ
“เจ้าห่านตัวนี้ก็เปรียบเหมือนเงินของหนู ถ้าหากหนูเอาเงินไปลงทุน หนูก็จะได้ดอกเบี้ย ดอกเบี้ยที่ออกมาก็คือ ไข่ทองคำ”
- จงออมเงินไว้ 10% เป็นห่านของหนูไว้เสมอ หนูก็จะเป็นคนรวยแน่นอน แต่ถ้าหนูอยากมีเงินมากจริง ๆ อาจจะเก็บเงินมากกว่านั้นก็ได้
“ถ้าเป็นหนู หนูจะเอาเงินไปจ่ายหนี้แค่ 1,000 เหรียญ ที่เหลืออีก1,000 เหรียญ หนูจะเก็บไว้ (ได้รับเงินมา2,000 เหรียญ)”
“แน่นอนอยู่แล้ว ถ้าฉันใช้จ่ายทั้งหมด ฉันก็ไม่มีห่านขุมทรัพย์และเมื่อฉันไม่มีห่าน ฉันก็ต้องทำงานเพื่อเงิน แต่ถ้าฉันมีห่านละก็เงินก็จะทำงานให้ฉัน”
-หากจะพิจารณาให้ดีแล้วความโชคดีก็คือ ผลของการเตรียมตัวอย่างดี และการทำงานหนักนั้นเอง
-คนกล้าหาญไม่ใช่คนที่ไม่มีความกลัวเลย คนเรากล้าหาญได้ก็ต่อเมื่อเรากลัว และก้าวต่อไปถึงแม้ว่าเราจะกลัวก็ตาม
-ฉันจะรู้ว่าฉันทำได้ ก็ต่อเมื่อฉันเริ่มทำมันจริง ๆ
-คนโง่มักมีโชคแค่หนเดียว แต่คนฉลาดจะมีโชค อยู่บ่อยๆ
”เงินจะอยู่แต่กับคนที่พร้อมเท่านั้น คนที่หาเงินมาได้อย่างไม่ถูกต้องถึงมีเงินไปก็มีความทุกข์เสียยิ่งกว่าตอนที่ไม่มีเงินเสียอีก”
-คนที่มีความสุขมีเงินก็จะยิ่งมีความสุขแต่คนที่มองโลกในแง่ร้าย มีเงินไปก็รังแต่จะมีความทุกข์ยิ่งกว่าเดิม
-สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตฉัน เป็นผลมาจากการที่ฉันทำในสิ่งที่ฉันกลัวนี่แหละ
-ของขวัญที่มีค่าที่สุดเกิดจากฝีมือของเราเอง ใครที่เอาชนะความกลัวที่จะทำให้ขายหน้าได้ละก็ โลกก็เปิดทางให้คนคนนั้นแล้ว
-เธอต้องไม่หนีปัญหาความกลัวปัญหา กลัวความผิดพลาด กลัวความอับอาย ทำลายชีวิตคนมามากแล้วนับไม่ถ้วน
-เธอจงอย่าหยุดเขียนบันทึกความสำเร็จแม้ว่าเธอจะได้รับความสำเร็จแล้วก็ตาม
-เพราะความสำเร็จทำให้เราลืมตัว และหากเธอลืมตัวหรือหลงตัวเองเมื่อไหร่ เธอก็จะหยุดที่จะเรียนรู้และการหยุดเรียนรู้ก็คือการหยุดพัฒนาตัวเอง
“เพราะหากเราตั้งใจจะทำอะไรแล้ว สิ่งนั้นก็จะเติบโตในชีวิตเรามากขึ้นเรื่อยๆ”
-ตัดสินใจให้แน่วแน่ ว่าตัวเราชอบเงินและต้องการมันจริง ๆ
-มีความเชื่อมั่นในตัวเอง มีความคิดและทำในสิ่งที่ชอบ
-จัดสรรเงินสำหรับค่าใช้จ่ายประจำวัน ความฝัน และเงินสำหรับห่านขุมทรัพย์
-แล้วนำมาลงทุนอย่างฉลาด
การลงทุน
1. ควรจะลงทุนเงินอย่างปลอดภัย
2. เงินที่ลงทุนควรออกไข่ทองคำให้ได้มาก ๆ
3. การลงทุนควรจะเข้าใจง่าย
“หนูจะไม่มีวันรู้เลยว่าหนูสามารถทำอะไรได้บ้าง หากหนูมัวแต่กดตัวเองเอาไว้ สิ่งที่พวกเราภาคภูมิใจที่สุดก็คือ การทำสิ่งที่ยากที่สุดนั่นเอง”
- สิ่งที่พวกเราควรเอาใจใส่การเลือกกองทุน
1. กองทุนควรมีอายุอย่างน้อย 10 ปี หากมันสามารถกำไรได้ดีมาเป็นเวลานานเราก็สามารถเชื่อได้ว่ามันจะทำกำไรต่อไปในอนาคตด้วย
2. กองทุนควรจะเป็นกองทุนระหว่างประเทศเพราะกองทุนแบบนี้จะช่วยซื้อหุ้นทั่วโลกให้เราเป็นการกระจายความเสี่ยงทางหนึ่งและปลอดภัยมั่งคงกว่า
3. ต้องมีการเปรียบเทียบกองทุนหลายกองทุน ควรเลือกกองทุนที่ทำกำไรได้ดีที่สุดในช่วงสิบปีที่ผ่านมา
- พวกเธอเอา 72 ตั้งหารด้วยจำนวน เปอร์เซ็นที่พวกเธอจะได้กำไรแต่ละปี ผลลัพธ์คือ จำนวนปีที่เงินพวกเธอจะเพิ่มเป็น 2 เท่า
“คนเราต้องอย่าลืมตัว มีนกกระจอกในมือยังดีกว่าเห็นนกพิราบบนหลังคา”
- อัตราเงินเฟ้อทำให้เงินลดค่าครึ่งหนึ่งเมื่อเอา 72 ตั้งหารด้วย เปอร์เซ็น เงินเฟ้อแล้ว จะได้จำนวนปีที่ทำให้เงินลดลงครึ่งหนึ่ง
- ฉันได้เรียนรู้ว่าการมีปัญหานั้นเป็นสิ่งที่ดีเพราะมันจะทำให้ฉันมองหาโอกาสใหม่ ๆ และสามารถเรียนรู้ได้มากมาย
- อย่าเสียใจกับสิ่งที่เราสูญเสียไปแล้วแต่จงขอบคุณเวลาดีๆที่เราเคยมี
วันที่: Sun May 25 19:17:12 ICT 2025
|
|
|