นักวิชาการได้นำน้ำสกัดชีวภาพพลูคาวไปวิจัยและค้นพบว่า จุลินทรีย์ในน้ำสกัดชีวภาพพลูคาวมีประสิทธิภาพในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นและไม่มีสารตกค้างที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ขณะเดียวกันคณะนักวิจัยยังได้ทราบข้อเท็จจริงว่า สีแดงที่อยู่ใต้ใบพลูคาวเป็นตัวชี้วัดว่ามี เภสัชสาร ซึ่งเป็นสารเฮลดีแบคทีเรีย มีจุลินทรีย์และแลคโตบาซิลลัสสายพันธุ์หนึ่ง ที่สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกายของมนุษย์ให้ทำงานได้ดีขึ้น ทั้งยังสามารถไปยับยั้งการเจริญเติบโต และต้านทานเนื้องอก(Anit-tumor) และช่วยต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ป้องกันมะเร็งได้ค่านข้างดี
พลูคาวจัดเป็นผักสมุนไพรที่มีการศึกษาวิจัยและจดสิทธิบัตรมากตัวหนึ่ง จากการวิจัยทั้งในและต่างประเทศ พบฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของพลูคาวเช่นเดียวกับการใช้ประโยชน์ทางยาของหมอยาพื้นบ้าน ตามที่ได้กล่าวมาแล้ว ดังนี้ ฤทธิ์ขับปัสสาวะ พบว่าสารฟลาโวนอยด์ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงไต จึงมีผลเพิ่มการขับปัสสาวะ ฤทธิ์ต้านเชื้อราและแบคทีเรีย ฤทธิ์ต้านไวรัส น้ำมันหอมระเหยจากพลูคาวสามารถยับยั้งการเจริญของไวรัสที่เป็นสาเหตุของไข้หวัดใหญ่ ไวรัสต้นเหตุของโรคเริม ไวรัสไข้หวัดใหญ่ และไวรัสเอดส์ ฤทธิ์ในการทำลายเซลล์มะเร็งในหลอดทดลอง ซึ่งในประเทศจีน มีการใช้พลูคาวเป็นส่วนประกอบในตำรับยาผงและยาฉีดในมะเร็งหลายชนิด ฤทธิ์กระตุ้นภูมิคุ้มกัน และฤทธิ์ต้านการอักเสบและระงับการปวด โดยออกฤทธิ์เช่นเดียวกับยาแก้ปวดลดการอักเสบแผนปัจจุบันที่มิใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) ฤทธิ์ในการต้านการเกิดแผลในกระเพาะอาหารเป็นต้น
พลูคาวเป็นผักที่ปลูกง่าย ต้องการเพียงความชื้น แต่บางครั้งก็ต้องแย่งกับทากที่ชอบมากัดกินใบแข่งกับเราบ้าง หมอยาส่วนใหญ่ต่างยืนยันตรงกันว่ากินสดๆ ดีที่สุด ปลูกเอง กินเอง แข็งแรงเองได้โดยไม่ต้องไปเสียค่าการตลาดหรือค่าสิทธิบัตรแพงลิบลิ่ว เพียงแต่ต้องการความกล้าหาญที่จะกินจนชินกับกลิ่นเฉพาะของสุดยอดผักสมุนไพรเพื่อสุขภาพอย่างคาวตอง พลูคาว เคียวตอง ที่แสนจะคาวเท่านั้นเอง ”
น้ำพลูคาว ทำหน้าที่เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น และไม่มีสารตกค้างที่เป็นอันตรายต่อร่างกายหน้าที่หลักของจุลินทรีย์ในน้ำพลูคาวคือ ช่วยกระตุ้นให้การทำงานของระบบภูมิต้านทานของร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์มากขึ้น และเมื่อร่างกายมีระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงขึ้นระบบการทำงานของร่างกาย ก็จะสามารถต่อสู้กับโรคร้ายต่างๆที่เข้ามาสู่ภายในได้ด้วยกลไกธรรมชาติของร่างกายมนุษย์นั่นเอง
นักวิชาการได้นำน้ำพลูคาวไปวิจัยและค้นพบว่าจุลินทรีย์ในน้ำพลูคาวมีประสิทธิภาพในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน(หรือระบบภูมิต้านทาน)ให้แก่ร่างกายทำหน้าที่เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น และไม่มีสารตกค้างที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย หน้าที่หลักของจุลินทรีย์ในน้ำพลูคาวคือช่วยกระตุ้นให้การทำงานของระบบภูมิต้านทานของร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์มากขึ้น และเมื่อร่างกายมีระบบภูมิคุ้มกัน ที่แข็งแรงขึ้นระบบการทำงานของร่างกายก็จะสามารถต่อสู้กับโรคร้ายต่างๆที่เข้ามาสู่ภายในได้
ปี๒๕๔๗ เภสัชกรปราณี ชวลิตธำรง ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยสมุนไพรกรมวิทยาศาสตร์ การแพทย์ในขณะนั้น ได้นำพลูคาวจากจังหวัดเชียงใหม่มาศึกษาวิจัยเพื่อจัดทำมาตรฐาน จึงทำให้สนใจในสรรพคุณทางยาของพลูคาวมากขึ้น และเพิ่งได้รู้ว่าพลูคาวเป็นสมุนไพรตัวหนึ่งที่มีการศึกษาวิจัยและมีการจดสิทธิบัตรมากตัวหนึ่งทั้งในแง่ของการเป็นยาและเครื่องสำอาง การเป็นยาที่สำคัญคือการเป็นยารักษามะเร็ง ซึ่งในการรักษามะเร็งนี้ได้เคยมีชาวบ้านเล่าให้ฟังอยู่บ้าง มีทั้งการต้มกินน้ำและการกินสดๆ นอกจากมีการศึกษาวิจัยพลูคาวในแง่ของการเป็นยารักษามะเร็งแล้ว พลูคาวยังเป็นความหวังในการรักษาไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ๒๐๐๙ ที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ เนื่องจากพลูคาวมีผลในการเพิ่มภูมิคุ้มกัน และน้ำมันหอมระเหยของพลูคาวยังมีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ในหลอดทดลอง มีหมอยาเมืองเลยเคยบอกว่า ในการรักษาหวัดคัดจมูก ปวดหัว ตาพร่ามัว ให้ขยี้ใบคาวตองและใบผักแพวดม อาการจะดีขึ้น
นักวิชาการได้นำน้ำพลูคาวไปวิจัยและค้นพบว่าจุลินทรีย์ในน้ำพลูคาวมีประสิทธิภาพในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน (หรือระบบภูมิต้านทาน)ให้แก่ร่างกายทำหน้าที่เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น และไม่มีสารตกค้างที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย หน้าที่หลักของจุลินทรีย์ในน้ำพลูคาวคือช่วยกระตุ้นให้การทำงานของระบบภูมิต้านทานของร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์มากขึ้น และเมื่อร่างกายมีระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงขึ้น ระบบการทำงานของร่างกายก็จะสามารถต่อสู้กับโรคร้ายต่างๆที่เข้ามาสู่ภายในได้ด้วยกลไกธรรมชาติของร่างกายมนุษย์นั่นเอง ภูมิต้านทานของร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์มากขึ้น และเมื่อร่างกายมีระบบภูมิคุ้มกัน ที่แข็งแรงขึ้นระบบการทำงานของร่างกายก็จะสามารถต่อสู้กับโรคร้ายต่างๆที่เข้ามาสู่ภายในได้
พลูคาว ผักเป็นยา...เบาหวาน ความดัน ริดสีดวง รักษาแผลในกระเพาะอาหาร
หมอยาทั่วไปทั้งหมอยาอิสาน ภาคเหนือ หรือไทยใหญ่ มีความเชื่อว่า การกินพลูคาวสดๆ กับน้ำพริก ลู่ ลาบ หรือใช้รากต้มกับปลาไหล รากตำเป็นน้ำพริกกิน จะเป็นยารักษาได้หลายโรค เช่น เบาหวาน ขับปัสสาวะ ช่วยรักษาความดันโลหิตสูง ริดสีดวงทวาร แผลในกระเพาะอาหาร ส่วนหมอยากะเหรี่ยงทุ่งใหญ่นเรศวรตะวันออก นอกจากจะเชื่อว่าการกินพลูคาวเป็นผักจะทำให้แข็งแรงแล้ว ยังช่วยบำรุงเลือดให้สตรีที่ตกเลือดหลังคลอด รับประทานแล้วจะเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวลดังเดิม
พลูคาวรักษาโรคผิวหนังอักเสบ แมลงสัตว์ กัดต่อย ไล่เหา หมัด พลูคาวยังนิยมใช้ในการรักษาโรคผิวหนัง ผื่นคัน แผลเปื่อย โดยการนำต้นสดตำพอก เปลี่ยนยาวันละ ๒ ครั้ง นอกจากนี้เมื่อถูกแมลงสัตว์กัดต่อย อักเสบช้ำบวม กระดูกหัก หมอยาพื้นบ้านจะใช้ทั้งต้นตำพอกไว้ เปลี่ยนยาวันละสองครั้ง นอกจากนี้พลูคาวยังมีสรรพคุณในการไล่หมัดและเหา โดยการตำคั้นน้ำมาหมักผมไว้ เหาและหมัดก็จะหลุดออกมา
ประมาณปี ๒๕๔๗ เภสัชกรปราณี ชวลิตธำรง ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยสมุนไพร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ในขณะนั้น ได้นำพลูคาวจากจังหวัดเชียงใหม่มาศึกษาวิจัยเพื่อจัดทำมาตรฐาน จึงทำให้สนใจในสรรพคุณทางยาของพลูคาวมากขึ้น และเพิ่งได้รู้ว่าพลูคาวเป็นสมุนไพรตัวหนึ่งที่มีการศึกษาวิจัย และมีการจดสิทธิบัตรมากตัวหนึ่ง ทั้งในแง่ของการเป็นยาและเครื่องสำอาง การเป็นยาที่สำคัญคือการเป็นยารักษามะเร็ง ซึ่งในการรักษามะเร็งนี้ได้เคยมีชาวบ้านเล่าให้ฟังอยู่บ้าง มีทั้งการต้มกินน้ำและการกินสดๆ
นอกจากมีการศึกษาวิจัยพลูคาวในแง่ของการเป็นยารักษามะเร็งแล้ว พลูคาวยังเป็นความหวังในการรักษาไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ๒๐๐๙ ที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ เนื่องจากพลูคาวมีผลในการเพิ่มภูมิคุ้มกัน และน้ำมันหอมระเหยของพลูคาวยังมีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ในหลอดทดลอง มีหมอยาเมืองเลยเคยบอกว่า ในการรักษาหวัดคัดจมูก ปวดหัว ตาพร่ามัว ให้ขยี้ใบคาวตองและใบผักแพวดม อาการจะดีขึ้น
นอกจากมีการศึกษาวิจัยพลูคาวในแง่ของการเป็นยารักษามะเร็งแล้ว พลูคาวยังเป็นความหวังในการรักษาไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ๒๐๐๙ ที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ เนื่องจากพลูคาวมีผลในการเพิ่มภูมิคุ้มกัน และน้ำมันหอมระเหยของพลูคาวยังมีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ในหลอดทดลอง มีหมอยาเมืองเลยเคยบอกว่า ในการรักษาหวัดคัดจมูก ปวดหัว ตาพร่ามัว ให้ขยี้ใบคาวตองและใบผักแพวดม อาการจะดีขึ้น
นอกจากมีการศึกษาวิจัยพลูคาวในแง่ของการเป็นยารักษามะเร็งแล้ว พลูคาวยังเป็นความหวังในการรักษาไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ๒๐๐๙ ที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ เนื่องจากพลูคาวมีผลในการเพิ่มภูมิคุ้มกัน และน้ำมันหอมระเหยของพลูคาวยังมีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ในหลอดทดลอง มีหมอยาเมืองเลยเคยบอกว่า ในการรักษาหวัดคัดจมูก ปวดหัว ตาพร่ามัว ให้ขยี้ใบคาวตองและใบผักแพวดม อาการจะดีขึ้น
นอกจากมีการศึกษาวิจัยพลูคาวในแง่ของการเป็นยารักษามะเร็งแล้ว พลูคาวยังเป็นความหวังในการรักษาไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ๒๐๐๙ ที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ เนื่องจากพลูคาวมีผลในการเพิ่มภูมิคุ้มกัน และน้ำมันหอมระเหยของพลูคาวยังมีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ในหลอดทดลอง มีหมอยาเมืองเลยเคยบอกว่า ในการรักษาหวัดคัดจมูก ปวดหัว ตาพร่ามัว ให้ขยี้ใบคาวตองและใบผักแพวดม อาการจะดีขึ้น
การใช้พลูคาวเป็นยาตามสรรพคุณข้างต้นนั้น มีความคล้ายคลึงกันในหลายประเทศ เช่น ประเทศในแถบอินโดจีน ที่ใช้ทั้งต้นบรรเทาอาการของโรคริดสีดวงทวาร ขับปัสสาวะ แก้อาการอักเสบ แก้ลมพิษ ใบใช้แก้บิด ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับการใช้ของจีน ที่ใช้ใบหรือทั้งต้นขับปัสสาวะ รักษาโรคติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ แก้อาการบวมน้ำ ปอดอักเสบ หลอดลมอักเสบ ไอและบิด ต้านเชื้อแบคทีเรียโดยเฉพาะในระบบทางเดินหายใจ
ในประเทศจีน เกาหลี ญี่ปุ่น ใช้ทั้งต้นเป็นยาลดไข้ ขจัดสารพิษ รักษาแผลในกระเพาะและลดการอักเสบ ในประเทศเกาหลียังใช้พลูคาวเป็นยาลดความดันโลหิตสูง ภาวะหลอดเลือดแข็งตัวเนื่องจากมีการสะสมของไขมัน (atherosclersis) และมะเร็ง ส่วนเนปาลใช้ลำต้นใต้ดินในตำรับยาที่เกี่ยวกับโรคของสตรี ขับระดู ใช้ทั้งต้นเป็นยาย่อยอาหาร บรรเทาอาการอักเสบ ใบใช้ในการรักษาโรคผิวหนัง แก้บิดและริดสีดวงทวาร ดังนั้นจะเห็นว่าการใช้ประโยชน์จากพลูคาวของหมอพื้นบ้านในแต่ละประเทศไม่แตกต่างกันเท่าใดนัก
สรรพคุณทางยาของพลูคาวที่กล่าวมาทั้งหมด เป็นเรื่องราวที่รู้มาจากบรรดาหมอยา ที่ได้มีโอกาสไปสัมพันธ์ พบปะพูดคุยด้วย นอกจากสรรพคุณเหล่านั้นแล้ว ในตำรายาพื้นบ้านยังระบุว่า พลูคาวใช้ทั้งต้นรักษาฝีหนองในปอด ปวดศีรษะ แก้บิด ขับปัสสาวะ ขับนิ่ว ขับระดูขาว ริดสีดวงทวาร แก้โรคผิวหนังผื่นคัน แผลเปื่อย และใช้พอกในรายกระดูกหัก ส่วนชาวเขาใช้แก้ไข้มาลาเรีย ใบแก้บิด อย่างไรก็ตาม มีการบันทึกตำรับยาแผนโบราณ ที่มีพืชนี้ภายใต้ชื่อคาวตองหรือพลูคาวเป็นส่วนประกอบอยู่หลายขนาน เช่น ตำรับยาแก้น้ำมูกพิการ ยาแก้ขัดเบา ยามหาระงับพิษ
ประมาณปี ๒๕๔๗ เภสัชกรปราณี ชวลิตธำรง ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยสมุนไพร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ในขณะนั้น ได้นำพลูคาวจากจังหวัดเชียงใหม่มาศึกษาวิจัยเพื่อจัดทำมาตรฐาน จึงทำให้สนใจในสรรพคุณทางยาของพลูคาวมากขึ้น และเพิ่งได้รู้ว่าพลูคาวเป็นสมุนไพรตัวหนึ่งที่มีการศึกษาวิจัย และมีการจดสิทธิบัตรมากตัวหนึ่ง ทั้งในแง่ของการเป็นยาและเครื่องสำอาง การเป็นยาที่สำคัญคือการเป็นยารักษามะเร็ง ซึ่งในการรักษามะเร็งนี้ได้เคยมีชาวบ้านเล่าให้ฟังอยู่บ้าง มีทั้งการต้มกินน้ำและการกินสดๆ
ประมาณปี ๒๕๔๗ เภสัชกรปราณี ชวลิตธำรง ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยสมุนไพร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ในขณะนั้น ได้นำพลูคาวจากจังหวัดเชียงใหม่มาศึกษาวิจัยเพื่อจัดทำมาตรฐาน จึงทำให้สนใจในสรรพคุณทางยาของพลูคาวมากขึ้น และเพิ่งได้รู้ว่าพลูคาวเป็นสมุนไพรตัวหนึ่งที่มีการศึกษาวิจัย และมีการจดสิทธิบัตรมากตัวหนึ่ง ทั้งในแง่ของการเป็นยาและเครื่องสำอาง การเป็นยาที่สำคัญคือการเป็นยารักษามะเร็ง ซึ่งในการรักษามะเร็งนี้ได้เคยมีชาวบ้านเล่าให้ฟังอยู่บ้าง มีทั้งการต้มกินน้ำและการกินสดๆ
ประมาณปี ๒๕๔๗ เภสัชกรปราณี ชวลิตธำรง ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยสมุนไพร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ในขณะนั้น ได้นำพลูคาวจากจังหวัดเชียงใหม่มาศึกษาวิจัยเพื่อจัดทำมาตรฐาน จึงทำให้สนใจในสรรพคุณทางยาของพลูคาวมากขึ้น และเพิ่งได้รู้ว่าพลูคาวเป็นสมุนไพรตัวหนึ่งที่มีการศึกษาวิจัย และมีการจดสิทธิบัตรมากตัวหนึ่ง ทั้งในแง่ของการเป็นยาและเครื่องสำอาง การเป็นยาที่สำคัญคือการเป็นยารักษามะเร็ง ซึ่งในการรักษามะเร็งนี้ได้เคยมีชาวบ้านเล่าให้ฟังอยู่บ้าง มีทั้งการต้มกินน้ำและการกินสดๆ
“พลูคาวหรือคาวตอง”คือชื่อสมุนไพรพื้นบ้านที่ชาวเหนือนิยมบริโภคเป็นเครื่องเคียงขึ้นโต๊ะอาหาร รับประทานกับลาบอยู่ในชีวิตประจำวันตามปกติ (เพราะกลิ่นคาวของผัก จึงทำให้มีชื่อเรียกว่า ผักคาวตองหรือใบพลูคาว) และด้วยกลิ่นคาวของใบพลูคาวนี่เองจึงไม่เคยมีผู้ใดคาดคิดมาก่อนเลยว่าผักคาวตองหรือใบพลูคาว จะสามารถนำมาหมักน้ำชีวภาพแล้วไม่ส่งกลิ่นคาว แต่ในทางตรงกันข้ามเมื่อผ่านกรรมวิธีหมักน้ำชีวภาพแล้ว กลิ่นคาวของใบพลูคาวกลับหายไปและก่อเกิดสิ่งมีชีวิตเล็กๆขึ้นซึ่งภายหลังสิ่งมีชีวิตเล็กๆ เหล่านี้ได้สร้างความมหัศจรรย์ และให้ประโยชน์อย่างอเนกอนันต์ต่อชีวิตของมนุษย์ในเวลาต่อมา สิ่งมีชีวิตตัวน้อยๆเหล่านี้มีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ว่า“จุลินทรีย์”
|
|
|
|
Post : 21/10/2016 10:44
Post : 21/10/2016 10:34
Post : 05/10/2016 13:36
Post : 24/07/2016 20:20
มียารักษาหูชั้นในอักเสบได้ไหมครับ มีเสียงในหูด้วย
Post : 24/07/2016 20:03
ไม่ทราบรักษาหูชั้นในอักเสบได้ไหมครับ เพิ่งเป็น3อาทิตย์แล้ว
Post : 27/07/2015 18:45
น้ำสกัดชีวภาพพลูคาวใช้รักษาอาการเสียงดังในหูได้ไหมคะเป็นมาสามเดือนแล้ว
Post : 19/03/2015 14:26
ตรีผลา-พลูคาว ของบ้านอโรคยาดีมากๆเราเป็นลูกค้ามาเจ็ดปีละ อยู่ลาวไม่กินช่วงหนึ่ง รู้สึกปวดหัวราปวดเข่า แผลอักเเสบเต็มตัวเพราะแพ้อาหารสิวเต็มหน้า ตัวบวม เลยต้องมีติดบ้านไว้ชื้อที่นวมินซ.44 ราคาตอนนี้ขึ้นมาจากเดิมอยู่ที่110-165-ก็ขึ้นจากเดิมยี่สิบบาทที่แฮปปี้แลนด์น้อมจิต-ตรงข้ามกับเดอะมอลบางกะปิขายอยู่ 155 บาทต่อขวด ประโยชย์ของเขาสมุนไพรหรือตัวยาอื่นๆทึ่สนับสนุนก้นก็ยาประดงตราหมอทวี
Post : 04/09/2014 16:24
Post : 04/09/2014 16:21
Post : 01/06/2014 06:19
รับประทานตรีพลา+พลูคาว ของร้านอโรคยาในชุมชนสันติอโศก ซอย นวมินทร์ 44 ร่างกายแข็งแรงขึ้นมากค่ะ
เพราะก่อนหน้านี้จากที่ร่างกายไม่ค่อยสมดุลย์เพราะผ่ามดลูกออกหลายปีแล้ว ทำให้ระบบฮอร์โมนถูกตัดขาด มีผลให้ร่างกายแปรปรวนทุกระบบมีของเสียในร่างกายเยอะมาก ตับและไตทำงานหนัก แต่พอรับประทานตรีพลา+พลูคาว แล้วกระแสโลหิตเดินดีขึ้น ระบบย่อยดี ระบบขับถ่ายดี ร่างกายฟื้นคืนสดชื่น อวัยวะต่างๆมีชีวิตชีวาดีจังค่ะ
แนะนำให้เพื่อนทุกท่านนะคะ > ร้านอโรคยา Tel,02-7336001
Post : 26/05/2014 15:58
Post : 17/10/2013 00:07
อยู่ต่างจังหวัดค่ะสั่งจากแด่ชีวิตในรายการที่ให้สั่งไม่เคยมีเลยบอกแต่สินค้าขาด มีทางสั่งอย่างไรบ้างไหมคะ
Post : 26/08/2013 17:18
น้ำพลูคาวขายยังไงครับ ใช้รักษาสเก็ดเงินได้ไหม
Post : 21/08/2013 16:38
ที่ร้านปฐมอโศก จังหวัดนครปฐม ขายขวดละ 150 บาท ครับ
Post : 12/05/2013 10:04
Post : 12/05/2013 10:03
Post : 25/04/2013 13:02
หาซื้อน้ำพูลคาวในเชียงใหม่ได้ที่ไหน ราคาเท่าไร? สรรพคุณเป็นอย่างไรช่วยตอบทางเมล์ด้วยคะ
Post : 20/04/2013 11:53
อยากทราบว่าที่เชียงราย มีน้ำพลูคาวของชุมชนปฐมอโสกขายที่ไหน จะซื้อให้พ่อลองดื่มสัก2ขวด
Post : 11/02/2013 14:53
Post : 11/02/2013 14:46
Post : 11/02/2013 14:38
Post : 26/12/2012 22:56
ดีค่ะ ราคาดี คุณภาพดี แสดงถึงจิตใจดี ยินดีค่ะ
Post : 14/12/2012 15:15
ดิฉันทานพลูคาวชนิดแคปซูลเวลาเดินทางและืดื่มน้ำหมักพลูคาวของท่านสมณเสียงศีลและหมอผ่านเมฆดูFMTVจดจำและปฎิบัติตามตลอดเวลานี้อายุ72ปียังทำงานหนักอยู่ค่ะเวลาไปร้านมังสวิรัติที่จตุจักรเพื่อซื้อกากน้ำตาลมาทำน้ำจุลินทรีย์เพื่อเทส้วมที่อพาร์ตเม้นท์60ห้องก็จะซื้อพลูคาวมาด้วยดิฉันรู้สึกร่างกายแข็งแรงขึนไม่ป่วยง่ายสามารถหิ้วขวดกากน้ำตาลขวดน้ำหมักพลูคาวเดินไปขึ้นรถเมล์กลับบ้านได้ค่ะ ขอขอบคุณท่านสมณเสียงศีลและคุณหมอผ่านเมฆมาณที่นี้ดวยค่ะ
Post : 13/10/2012 11:05
อยากทราบว่าน้ำสกัดชีวภาคพลูคาวครึ่งโหลจำหน่ายหรือไม่และราคาเท่าไร(พร้อมส่ง)
Post : 21/07/2012 20:34
ช่วยรักษาคอพอกเป็นพิษได้หรือเปล่า
Post : 21/07/2012 09:06
อยากทราบว่ามีการเปลี่ยน แผ่นปิดหน้าขวด(พลูคาว)ใหม่หรือเปล่าค๊ะ เพราะที่ซื้อมา 1โหลจะไม่เหมือนกับที่ลงในหน้าเวปค่ะ กลัวเป็นของปลอม อยากทราบเกี่ยวกับสารเสตียร์รอยด์ด้วยค่ะ เพราะทานประจำ อยู่ขอนแก่นค่ะ สั่วซื้อจากตัวแทนที่นี่มีไม๊ค๊ะ
รบกวนช่วยตอบด้วย ขอบคุณค่ะ
Post : 02/06/2012 01:31
อยากซื้อพลูคาวเพื่อให้เป็นทานแก่คนเฒ่าคนแก่และช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็งครับ อยากได้ 1 โหล จัดส่งให้ด้วยและต้องเสียค่าใช้จ่ายอย่างไร ส่งไปที่ จว.เชียงใหม่ครับ
Post : 01/06/2012 11:20
น้ำพลูคาวรักษา อาการคัน ผิวหนังอักเสบเรื้อรัง ที่เป็นมานานนับ 10 ปี ได้หรือไม่
Post : 05/05/2012 15:01
ตอนนี้ราคาพลูคาวราคาขวดละ 120 หรือ 200 ครับ ถ้าครึ่งโหลเท่าไหร่ สั่งในเวปนี้เลยไ้ด้เปล่าครับ
Post : 27/12/2011 20:58
รักษาไทรอยด์เป็นพิษได้มั้ยค่ะ เป็นโรคนี้อยู่ กินยาแผนปัจจุบันมาหลายปี ไม่ดีขึ้นเลยค่ะ
Post : 19/08/2011 22:50
น้ำหมักต่าง ๆของเพื่อนช่วยเพื่อนราคาส่งประมาณ 120 บาทไม่รวมค่าส่งค่ะ ลองติดต่อแด่ชีวิตดู
Post : 17/07/2011 13:29
น้ำพลูคาวราคาขวดละเท่าไรครับ ขอบคุณครับ